โครงงานคอมพิวเตอร์เรื่องนิทานอิสป
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานการพัฒนาสื่อเพี่อการศึกษา การสร้างเว็บบล็อก เรื่อง นิทานอีสป
ผู้จัดทำ
1.นางสาว จิรวรรณ ชำนิกุล เลขที่ 14
2.นางสาว พรทิพย์ เทียมทอง เลขที่ 20
3.นางสาว พัชรีญา สุทธสน เลขทื่ 22
4.นางสาว ศศิธร พรหมจันทร์ เลขที่ 30
5.นางสาว สุดารัตน์ ไชยภักดิ์ เลขที่ 34
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/4
โรงเรียนกำแพง
สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 28
รายงานฉบับนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงงานคอมพิวเตอร์ประเภทพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา
เรื่อง นิทานอีสป
ประเภทของโครงงาน พัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา
ระดับชั้น มัธยมศึกษาตอนปลาย
โดย นางสาว
จิรวรรณ ชำนิกุล
นางสาว
พรทิพย์ เทียมทอง
นางสาว
พัชรีญา สุทธสน
นางสาว
ศศิธร พรหมจันทร์
นางสาว
สุดารัตน์ ไชยภักดิ์
สังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา
เขต 28
ครูที่ปรึกษา นาย
สมยศ พิมนุวงศ์
ปีการศึกษา 2561
บทคัดย่อ
โครงงานเรื่อง นิทานอีสปนี้เป็นโครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา ลักษณะเด่นของโครงงานประเภทนีคือ
เป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการผลิตสื่อเพื่อการศึกษา ซึ่งผู้จัดทำจะwabBolg ในการผลิตสื่อเพื่อการศึกษาเรื่อง นิทานอีสป ลมกับดวงอาทิตย์ หัวขโมยกับสุนัขเฝ้าบ้าน แม่บ้านกับห่าน หมีกับรังผึ้ง
แม่ปูกับเรื่องปู กวางกับนายพราน ความสื่อสัตย์กับนักเดินทาง
คนขี้เหนียวกับนักเดินทาง ต้นถั่วกับผู้คน เด็กสาวรีดนมวัวกับถังนม ราชสีห์ในห้วงรัก พังพอนกับสาวบ้าน แมวในร่างหญิงสาว ต้นโอ๊กกับต้นอ้อ ดอกกุหลาบกับดอกบานไม่รู้โรย เพื่อพัฒนาสื่อผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ต
โดยใช้โปรแกรม Blogger นำเสนอ
กิตติกรรมประกาศ
โครงงานนี้สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยความช่วยเหลืออย่างดียิ่งของ อาจารย์ สมยศ พิมนุวงศ์ อาจารย์ที่ปรึกษาโครงงานและยังเป็นอาจารย์ประจำวิชา ที่ได้ให้คำแนะนำ และข้อคิดเห็นต่างๆมาโดยตลอด และ ขอขอบคุณ และขอบใจ
ครอบครัวและเพื่อนๆของผู้จัดทำโครงงาน ที่คอยให้กำลังใจ
และถามไถ่ความเป็นไปของโครงงานอยู่เสมอ
ทำให้ผู้จัดทำโครงงานมีกำลังใจที่จะพัฒนาโครงการจนสำเร็จได้
ผู้จัดทำโครงงานขอขอบพระคุณมา ณ ที่นี้
จัดทำโดย
คณะผู้จัดทำ
บทที่1
บทนำ
ที่มาและความสำคัญ
เทคโนโลยีทางการสื่อสาร เทคโนโลยีทางด้านคอมพิวเตอร์ ในปัจจุบัน
เริ่มมีบทบาทในการดำเนินชีวิตของมนุษย์ และมีส่วนช่วยสนับสนุนสื่อทางด้านการศึกษาอีกด้วยโดยสื่อสมัยใหม่นิยมเป็น
สื่อการเรียนผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ต เพราะ สะดวกรวดเร็วและเข้าถึงได้ง่าย
ที่จะศึกษานิทานอีสป
ซึ่งมีหลากหลายเรื่องแต่ละเรื่องมีข้อคิดอยู่มากนับว่าเป็นนิทานที่ได้รับความนิยมและเชื่อว่าเป็นที่รู้จักกันทั่วโลกมากที่สุดรวมถึงในประเทศไทย
นอกจากจะมีเรื่องราวที่สนุกสนานแล้วแต่ละเรื่องมีข้อคิดคติสอนใจจากเนื้อเรื่อง
ซึ่งกลุ่มของข้าพเจ้าได้ยกมาทำสองเรื่องคือเรื่อง กาบ้ายอ และ คนขี้เหนียวกับทองคำ
วัตถุประสงค์
1. เพื่อศึกษาและพัฒนาเว็บบล็อก
2. เพื่อเป็นประโยชน์กับบุคคลที่สนใจทั่วไป
3. เพื่อสร้างความสามัคคีในการทำงานกลุ่ม
ขอบเขตการศึกษา
ศึกษาโครงงานเกี่ยวกับ นิทานอีสป ลมกับดวงอาทิตย์ หัวขโมยกับสุนัขเฝ้าบ้าน แม่บ้านกับห่าน
หมีกับรังผึ้ง แม่ปูกับเรื่องปู กวางกับนายพราน ความสื่อสัตย์กับนักเดินทาง
คนขี้เหนียวกับนักเดินทาง ต้นถั่วกับผู้คน เด็กสาวรีดนมวัวกับถังนม ราชสีห์ในห้วงรัก พังพอนกับสาวบ้าน แมวในร่างหญิงสาว ต้นโอ๊กกับต้นอ้อ ดอกกุหลาบกับดอกบานไม่รู้โรย เพื่อพัฒนาสื่อผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ต โดย
โปรแกรม Blogger นำเสนอ
ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
1. ได้ศึกษาเกี่ยวกับนิทานอีสป
2. ได้เพิ่มความสามัคคีภายในกลุ่ม
บทที่
2
เอกสารที่เกี่ยวข้อง
การจัดทำโครงงานเพื่อการศึกษานิทานอีสปที่มีหลากหลายเรื่อง คณะผู้จัดทำได้ศึกษาค้นคว้าเสนอเอกสารที่เกี่ยวข้องดังต่อไปนี้
นิทานอีสป
อีสป เป็นชื่อของชายคนหนึ่งซึ่งเกิดในเมืองฟรีเยีย
ราว 620 - 560 ปีก่อนคริสตกาล
หรือก่อนสมัยพุทธกาลเพียงเล็กน้อย ในปัจจุบันดินแดนแห่งนี้มีชื่อเรียกว่า
เอเซียไมเนอร์
เป็นดินแดนที่ทวีปเอเชียและทวีปยุโรปมาชนกันจนกลายเป็นดินแดงที่มีความเจริญรุ่งเรืองมากในยุคสมัยของอีสป
แต่เนื่องจากดินแดนแห่งนี้เป็นแหล่งรวมของพ่อค้าวาณิช ทูต และนักท่องเที่ยว
เป็นดินแดนที่มีการค้าทาสกันอย่างแพร่หลายในสมัยนั้น อาจกล่าวได้ว่า อีสป ก็เป็นทาสคนหนึ่ง
มีสมญานามว่า Ethiop (เอธิออป) หมายถึง คนผิวดำ
เชื่อกันว่าที่มาของชื่อมาจากชื่อประเทศเอธิโอเปีย กลายมาเป็น อะบิสซีเนีย
ต่อมาชาวยุโรปได้ออกเสียงผิดเพี้ยนไปจนกลายเป็น Aesop (อีสป)
ในบางตำนานได้มีการถกเถียงกันว่า ตำนานอีสป นั้นอาจจะมาจากเมืองเทรซ ไพรเกียเอธิโอเปีย
ซามอส เอเธนส์ หรือเมืองซาร์ดิส ซึ่งยังไม่มีใครรู้ข้อมูลตรงนี้อย่างแน่ชัด
คามาริอุส
(Camarius) ผู้เขียนประวัติของอีสปได้พรรณนากายภาพของอีสปว่า
เขามีรูปร่างหน้าตาอัปลักษณ์จนผิดมนุษย์ ปากแบะ จมูกบี้ มีลิ้นคับปาก ผิวมืดดำ
เวลาเดินหลังจะงุ้ม อีสปมักพูดเสียงอยู่ในลำคอ ไม่ค่อยมีใครได้ยินเวลาที่อีสปกล่าว
หรือพูดจาปราศรัยกับใคร
แต่เดิม อีสป นั้นเป็นทาสอยู่ที่เมืองซามอส (Samos) ประเทศกรีซ นายอิดมอน หรือเอียดม็อน เจ้านายของอีสป
ได้ให้เขาทำหน้าที่เป็นครูสอนหนังสือให้กับลูกๆ ของอิดมอน และเนื่องจากว่าบ้านของอิดมอนเป็นที่พบปะสังสรรค์ในหมู่บุคคลสำคัญของกรีก
อีสปจึงได้มีโอกาสพบเห็นและทำความรู้จักกับบุคคลเหล่านั้น ว่ากันว่า อีสป
มีความสามารถพิเศษในการมองคนด้วยการสังเกตรู้ได้โดยวิจารณญาณว่าใครเป็นอย่างไร
และอิดมอนก็รู้ในความสามารถพิเศษนั้นของอีสป จึงได้ให้อีสปติดตามไปด้วยเสมอเมื่อต้องไปพบปะกับคนใหญ่คนโตของกรีก
เขาได้มีโอกาสเล่านิทานให้คนเหล่านั้นฟังจนทำให้กลายเป็นที่ชื่นชอบนับแต่นั้นมา
ต่อมา อิดมอนได้ให้อิสรภาพแก่อีสป
ซึ่งกว่าที่เรื่องราวของเขาจะได้การยอมรับจากประชาชนชาวกรีกนั้น
เขาต้องใช้เทคนิคเฉพาะตัวเพื่อทำให้ผู้ฟังเกิดความคล้อยตาม
เพราะเป็นที่แน่นอนอยู่แล้วว่าในนครรัฐกรีกต่างก็มีนักปราชญ์และนักคิดอยู่เป็นจำนวนมาก
ในขณะที่อีสปเองไม่ได้มีชื่อ หรือความน่าเชื่อถืออะไรติดตัวอยู่เลย
ทั้งยังเป็นเพียงทาสคนหนึ่งที่พิกลพิการ หวังให้ใครมาเชื่อถือก็ยากเอาการอยู่
สุดท้ายด้วยความพยายามของอีสป
เขาสามารถเอาชนะใจชาวกรีกด้วยการเล่าเรื่องที่สุดแสนจะธรรมดา แต่แฝงไปด้วยข้อคิด
ปรัชญา และคติสอนใจต่างๆ หลากหลาย ใครที่ได้ฟังจะเข้าใจได้ง่าย
สามารถนำคติสอนใจที่ได้รับกลับไปประยุกต์ใช้ในการดำเนินชีวิตประจำวันของตัวเองได้อีกด้วย
อีกทั้งลักษณะเด่นของเรื่องราวที่อีสปเล่า
เขามักจะตัวละครที่เป็นบรรดาสิงห์สาราสัตว์ทั่วไป อาทิ หมาป่ากับลูกแกะ
สุนัขกับเงา ราชสีห์กับหนู หรือสุนัขจิ้งจอกกับกา เป็นต้น
ชื่อเสียงของอีสปโด่งดังไปจนถึงหูของกษัตริย์เครซุส
ซึ่งเป็นกษัตริย์ที่มีความร่ำรวยมหาศาล อีสปได้เข้าพักอาศัยอยู่ในวังและได้รับคำสั่งให้เข้ามาปฏิบัติหน้าที่ในราชสำนักในตำแหน่งราชทูต
เขาต้องเดินทางไปเจรจาความกับเมืองต่างๆ เนื่องจากกษัตริย์เครซุสเห็นว่าอีสปนั้นเป็นคนที่มีปฏิภาณไหวพริบและเป็นนักจิตวิทยาชั้นสูง
เขาได้พบกับรัฐบุรุษของเมืองเอเธนส์และนักปราชญ์ผู้รอบรู้ต่างๆ มากมาย
โดยเฉพาะนักปราชญ์ที่ชื่อ โซลอน โดยในบางตำนานได้เล่าว่า
อีสปเคยเข้าไปอยู่ในสำนักของโซลอน ซึ่งเป็นนักกฎหมายที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมาก
โซลอนเป็นญาติของปีซัสเตรตัส ผู้ปกครองแห่งเมืองเอเธนส์
ในขณะนั้นชาวเมืองคิดที่จะขับไล่ให้ปีซัสเตรตัสออกจากตำแหน่งเจ้าเมือง
เพราะเห็นว่าปีซัสเตรตัสนั้นปกครองประชาชนโดยใช้อำนาจเป็นใหญ่ กดขี่ข่มเหงสารพัด
อีสปจึงได้เล่านิทานเรื่อง กบเลือกนาย ให้กับประชาชนชาวเอเธนส์ฟัง
ทำให้ประชาชนชาวเมืองเลื่อมใสการปกครองของปีซัสเตรตัสได้สำเร็จ นอกจากนั้น
อีสปยังได้แสดงความคิดเห็นในทางการปกครอง และเล่านิทานเชิงเปรียบเทียบอีกหลายๆ
เรื่องในสำนักกฎหมายของโซลอน
นิทานีอสป
เรื่อง ลมกับดวงอาทิตย์
วันหนึ่งลมกับดวงอาทิตย์พูดคุยกันถึงความสามารถว่าใครเก่งกว่ากัน ทั้งสองท้าทายกันว่า หากใครสามารถทำให้เสื้อผ้าของนักเดินทางที่เดินผ่านมาหลุดออกจากร่างกายของเขาได้ก่อน ผู้นั้นจะเป็นผู้ชนะ แล้วลมก็เป็นฝ่ายเริ่มก่อน มันพัดลมที่แรงและหนาวเย็นออกมา แต่แทนที่นักเดินทางจะถอดเสื้อผ้าออก เขากลับดึงเสื้อให้มิดชิดกว่าเดิมเพราะความหนาวเย็น ดวงอาทิตย์จึงขอลองบ้าง เขาค่อย ๆ ปล่อยแสงแดดอุ่น ๆ ออกมาจนอากาศในบริเวณนั้นร้อนอบอ้าว จนนักเดินทางต้องถอดเสื้อคลุมออก และเมื่อมาถึงบ่อน้ำเขาก็ถอดเสื้อผ้าออกหมดเพื่อลงไปแช่น้ำคลายร้อน ในที่สุดดวงอาทิตย์จึงเป็นฝ่ายชนะ
:: นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ::
ทำอะไร
ควรใช้เหตุผล มากกว่าใช้กำลัง
:: พุทธภาษิต ::
โกธํ
ชเห วิปฺปชเหยฺย มานํ สญฺโญ ชนํ สพฺพมติกฺกเมยฺย
ตนฺนามรูปสฺมึ อสชฺชมานํ อกิญฺจนํ นานุปตนฺติ ทุกฺขา.
ตนฺนามรูปสฺมึ อสชฺชมานํ อกิญฺจนํ นานุปตนฺติ ทุกฺขา.
บุคคลพึงละความโกรธ
พึงเลิกถือตัว พึงก้าวล่วงสังโยชน์ทั้งปวง,
(เพราะ) ทุกข์ทั้งหลายย่อมไม่ติดตามผู้ไม่ข้องอยู่ในนามรูป ไม่มีกังวลนั้น.
(เพราะ) ทุกข์ทั้งหลายย่อมไม่ติดตามผู้ไม่ข้องอยู่ในนามรูป ไม่มีกังวลนั้น.
นิทานอีสป
เรื่อง หัวขโมยกับสุนัขเฝ้าบ้าน
กลางดึกคืนหนึ่ง
หัวขโมยแอบปีนรั้วบ้านของเศรษฐี เขาวางแผนมาเป็นอย่างดีที่จะได้ของมีค่ากลับไป
เขาจึงเอากระดูกและชิ้นเนื้อติดมาด้วย เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจจากสุนัขเฝ้าบ้าน
แต่พอเขาโยนเนื้อให้มัน มันกลับไม่สนใจ แล้วพูดว่า "ท่านคิดผิดแล้ว
เนื้อก้อนนี้ไม่สามารถปิดปากข้าได้
เรื่องอะไรข้าจะปล่อยให้ท่านมาขโมยของจากเจ้านายที่ข้ารักไป
แล้วเจ้านายของข้าต้องมาเดือดร้อนด้วยล่ะ"
:: นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ::
คนดีย่อมมีความซื่อสัตย์และความกตัญญูต่อผู้มีพระคุณ
:: พุทธภาษิต ::
นิมิตฺตํ สาธุรูปานํ, กตญฺญูกตเวทิตา,
ความกตัญญูกตเวที เป็นเครื่องหมายของคนดี
ความกตัญญูกตเวที เป็นเครื่องหมายของคนดี
นิทานอีสป
เรื่อง แม่บ้านกับห่าน
แม่บ้านคนหนึ่งมีห่านออกไข่เป็นทองคำได้ เธอจึงนำไข่ทองคำไปขายและนำเงินมาเก็บไว้ทุกวัน อยู่มาวันหนึ่งเธอคิดจะรวยมากกว่าเดิม เธอจึงให้อาหารห่านมากขึ้น เพราะหวังว่ามันจะออกไข่ทองคำให้เธอเพิ่มมากขึ้น แต่ปรากฏว่าห่านกินอาหารมากเกินไป จนสุดท้ายมันก็ท้องแตกตาย แม่บ้านได้แต่เสียใจเพราะความโลภของตนเอง
:: นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ::
โลภมาก
มักลาภหาย
:: พุทธภาษิต ::
ยา
กาจิมา ทุคฺคติโย อสฺมํ โลเก ปรมฺหิ จ
อวิชฺชามูลกา สพฺพา อิจฺฉาโลภสมุสฺสยา.
อวิชฺชามูลกา สพฺพา อิจฺฉาโลภสมุสฺสยา.
ทุคติในโลกนี้และโลกหน้า
ล้วนมีอวิชชาเป็นราก
มีอิจฉาและโลภเป็นลำต้น.
มีอิจฉาและโลภเป็นลำต้น.
ณ ป่าแห่งหนึ่ง มีหมีตัวหนึ่งกำลังหิวโซ เพราะไม่มีอาหารตกถึงท้องมาหลายวัน มันจึงเดินไปพบกับรังผึ้งขนาดใหญ่บนต้นไม้ มันจึงรีบปีนขึ้นไปกินอย่างตะกรุมตะกราม แต่ไม่ทันระวังจนถูกผึ้งต่อยเข้า เจ้าหมีเจ็บปวดมาก ด้วยความโกรธแค้นมันจึงทำลายรังผึ้งทั้งหมดในป่าเพื่อเป็นการระบายอารมณ์ ฝูงผึ้งทั้งหลายจึงรวมตัวกันรุมต่อยเจ้าหมีอันธพาลจนบาดเจ็บสาหัสไปทั่วทั้งตัว มันนอนซมอย่างหมดสภาพและโอดครวญว่า "ถ้าเราทนเจ็บตัวเพียงครั้งเดียว ก็คงไม่ต้องมาเจ็บไปทั่วทั้งตัวขนาดนี้หรอก"
:: นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ::
ให้ทุกข์แก่ท่าน
ทุกข์นั้นถึงตัว
:: พุทธภาษิต ::
ทุกขโต ทุกขถานัง ให้ทุกข์แก่ท่าน
ทุกข์นั้นถึงตัว
สุขขโต สุขสสานัง ให้สุขแก่ท่าน
สุขนั้นถึงตัว
นิทานอีสป
เรื่อง แม่ปูกับลูกปู
เช้าวันหนึ่งแม่ปูพาลูกปู ออกมาเดินหาอาหารที่ชายหาด แม่ปูเห็นลูกปูเดินเฉไปมา ไม่เป็นระเบียบจึงบอกกับลูก ๆ ว่า "ลูกจ๋าเดินแบบนี้ไม่สวยเลยนะจ๊ะ ลองเดินตรง ๆ ดูสิจ๊ะ" ลูกปูจึงบอกกับแม่ว่า "ถ้าอย่างนั้นแม่ช่วยเดินให้พวกเราดูหน่อยสิคะ พวกเราจะได้เดินตาม" แม่ปูจึงเดินให้ลูกปูดู แต่มันก็ไม่สามารถเดินให้ตรงได้เช่นเดียวกัน หลังจากวันนั้นแม่ปูจึงไม่กล้าสอนลูกปูในสิ่งที่ตนก็ทำไม่ได้อีกเลย
:: นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ::
ก่อนจะสอนใคร
ควรทำตัวให้เป็นแบบอย่างที่ดีให้ได้เสียก่อน
:: พุทธภาษิต ::
ยญฺหิ
กยิรา ตญฺหิ วเท ยํ น กยิรา น ตํ วเท
อกโรนฺตํ ภาสมานํ ปริชานนฺติ ปณิฑิตา.
อกโรนฺตํ ภาสมานํ ปริชานนฺติ ปณิฑิตา.
บุคคลทำสิ่งใด
ควรพูดสิ่งนั้น ไม่ทำสิ่งใด ไม่ควรพูดสิ่งนั้น,
บัณฑิตย่อมกำหนดรู้คนที่ไม่ทำ ได้แต่พูด.
บัณฑิตย่อมกำหนดรู้คนที่ไม่ทำ ได้แต่พูด.
วันหนึ่งขณะที่กวางกำลังก้มกินน้ำในสระอยู่นั้น มันก็เหลือบไปเห็นเงาของตัวเองสะท้อนอยู่เบื้องล่าง จึงพูดขึ้นว่า "โอ้ ข้าช่างงดงามอะไรเช่นนี้ เขาทั้งสอนของข้าแผ่กิ่งก้านอย่างสง่างามแต่ข้าของข้าเล็กไปหน่อย ไม่สวยเลย" ทันใดนั้นมีนายพรานคนหนึ่งเดินผ่านมาพบเจ้ากวางเข้า จึงเล็งปืนไปที่มัน เจ้ากวางหันไปเห็นก็ตกใจ มันรีบวิ่งเข้าป่าไปหาพุ่มไม้หลบซ่อนตัวแต่โชคร้ายเขาของมันเกิดไปติดกับกิ่งไม้ จนทำให้มันขยับตัวไปไหนไม่ได้ นายพรานจึงตามมาทันและฆ่ามัน ก่อนตายมันได้แต่คร่ำครวญว่า "ไม่เคยคิดเลยว่าเขาที่ข้าภาคภูมิใจ จะนำภัยกลับมาให้แก่ข้า"
:: นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ::
คุณค่าของสิ่งต่าง
ๆ มิใช่เพียงความงาม แต่ควรดูที่ประโยชน์ใช้สอยของมันด้วย
:: พุทธภาษิต ::
หนฺนติ
โภคา ทุมฺเมธํ
โภคทรัพย์ ย่อมฆ่าคนมีปัญญาทราม
โภคทรัพย์ ย่อมฆ่าคนมีปัญญาทราม
วันหนึ่ง ขณะที่นักเดินทางหนุ่มกำลังเดินเรือข้ามทะเลสาบอยู่นั้น เขาก็ได้พบกับหญิงรูปงามคนหนึ่งยืนอยู่คนเดียวบนเกาะกลางทะเล เขาจึงถามว่าเธอเป็นใคร เธอตอบกลับมาว่า "ฉันคือความซื่อสัตย์" ชายหนุ่มจึงถามต่อด้วยความสงสัยว่า "แล้วเหตุใด เธอจึงมาอยู่อย่างโดดเดี่ยวในที่ที่ไม่มีใครเช่นนี้เล่า" หญิงสาวตอบว่า "เดิมทีฉันก็อยู่กับมนุษย์ทุกคนนั่นแหละ แต่ตอนนี้พวกเขาได้เลือกความไม่ซื่อสัตย์เข้ามาแทนที่ฉันแล้ว ฉันจึงต้องมาอยู่คนเดียวเช่นนี้"
:: นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ::
เมื่อปล่อยให้ความไม่ซื่อสัตย์เข้ามาแทนที่แล้ว
ก็ยากที่จะมีความซื่อสัตย์ได้อย่างเดิม
:: พุทธภาษิต ::
สจฺจมนุรกฺเขยฺย
พึงตามรักษาความสัตย์
พึงตามรักษาความสัตย์
นิทานอีสป
เรื่อง คนขี้เหนียวกับทองคำ
เศรษฐีขี้เหนียวผู้หนึ่งนำทองคำไปฝั่งไว้ใต้ดิน ในทุก ๆ วันเขาจะมาขุดดูว่าทองคำยังอยู่ครบหรือไม่ แต่ก็ไม่รอดพ้นจากสายตาของพวกหัวขโมยไปได้ วันหนึ่งขโมยแอบมาขุดทองคำของเศรษฐีไปหมด เมื่อเศรษฐีมาขุดดูก็ตกใจ เพราะทองคำของตนหายไปหมด พบแต่ก้อนหินไม่กี่ก้อน เขาเสียใจมาก จึงไปเล่าเรื่องราวให้เพื่อนฟัง เพื่อนจึงถามเขาว่า "ท่านได้นำทองคำพวกนั้นไปใช้ประโยชน์บ้างหรือเปล่า" เศรษฐีตอบว่า"เปล่า ข้านำไปฝังเก็บไว้เฉย ๆ แล้วก็จะมาขุดดูทุกวัน" เพื่อนเขาจึงบอกว่า "ถ้าเช่นนั้นก็คิดเสียว่าก้อนหินพวกนี้เป็นทองคำสิ เพราะถึงอย่างไรท่านก็ไม่ได้ใช้ประโยชน์อยู่ดี แค่ขุดดูแล้วก็กลบไว้เหมือนเดิม"
:: นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ::
ของมีค่า ถ้าไม่นำมาทำให้เกิดประโยชน์ก็ย่อมเป็นของไร้ค่า
:: พุทธภาษิต ::
หาเปติ อตฺถํ ทุมฺเมโธ.
คนมีปัญญาทราม ย่อมพร่าประโยชน์เสีย
คนมีปัญญาทราม ย่อมพร่าประโยชน์เสีย
ต้นถั่วต้นหนึ่งงอกและเจริญเติบโตอยู่ริมถนน มันให้เมล็ดถั่วจำนวนมากมาย จึงทำให้ผู้คนที่ผ่านไปมา แวะเก็บเมล็ดของมันเป็นประจำ บางคนใช้วิธีเขย่าลำต้น บางคนเอาหนังสติ๊กมายิง หรือไม่ก็เอาหินมาขว้างปาเพื่อให้เมล็ดถั่วหล่นลงมา ต้นถั่วได้แต่บ่นกับตัวเองว่า "คนพวกนี้ช่างแย่เสียจริง ใช้วิธีต่าง ๆ ทำร้ายข้า เพื่อให้ได้เมล็ดถั่วจากข้า"
:: นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ::
คนเห็นแก่ตัวมักใช้สารพัดวิธีเพื่อให้ได้มาซึ่งผลประโยชน์
โดยไม่คำนึงว่าดีหรือเลว
:: พุทธภาษิต ::
อตฺตตฺถปญฺญา
อสุจี มนุสฺสา
คนเห็นแก่ตัว เป็นคนสกปรก
คนเห็นแก่ตัว เป็นคนสกปรก
นิทานอีสป
เรื่อง เด็กสาวรีดนมวัวกับถังนม
วันหนึ่งหลังจากที่เด็กสาวรีดนมวัวเสร็จ เธอก็เทน้ำนมวัวใส่ถัง แล้วเทินไว้บนหัวเพื่อจะไปขายที่ตลาด ระหว่างทางเธอก็จินตนาการไปต่าง ๆ นานาว่า "ถ้าฉันขายนมได้ฉันจะนำเงินไปซื้อไข่ไก่เอามาฟักเป็นตัว เมื่อเลี้ยงจนโตพอก็จะเอาไปขาย แล้วนำเงินไปซื้อเสื้อผ้าสวย ๆ มาไว้ใส่ไปงานเลี้ยง คงจะมีเด็กหนุ่มมาขอฉันเต้นรำมากมายแน่ ๆ" คิดมาถึงตรงนี้แล้วเธอก็หัวเราะอย่างมีความสุขจนหัวของเธอสั่นคลอนไปมา ทันใดนั้นถังนมที่อยู่บนหัวของเธอก็ตกลงสู่พื้น "เคร้ง!!!" ความฝันทั้งหมดของเธอจึงพังทลายหายไปกับนมที่หกออกจากถังนั่นเอง
:: นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ::
อย่าคิดฝันอะไรจนไกลเกินความเป็นจริง
แต่จงทำปัจจุบันให้ดีที่สุด
:: พุทธภาษิต ::
สติมา
สุขเมธติ.
คนมีสติ ย่อมได้รับความสุข.
คนมีสติ ย่อมได้รับความสุข.
สิงโตตัวหนึ่ง ตกหลุมรักลูกสาวคนตัดไม้ มันจึงไปขอคนตัดไม้ให้ยกลูกสาวให้แต่งงานกันมัน คนตัดไม้ไม่อยากยกลูกสาวให้กับสิงโต แต่ก็ไม่กล้าปฏิเสธ จึงนึกอุบายบอกกับสิงโตว่าจะยกลูกสาวให้ แต่มีข้อแม้ว่า"ลูกสาวข้าบอบบางยิ่งนัก ฟันและเล็บของท่านอาจทำอันตรายแก่นางได้ ถ้าท่านรักนางจริงก็ต้องถอนเขี้ยวเล็บของท่านออกให้หมดก่อน" สิงโตจึงตอบตกลงทันที มันรีบกลับไปถอนเขี้ยวเล็บของมันออกจนหมด แล้วมาหาคนตัดไม้และลูกสาวอีกครั้ง แต่คราวนี้พวกเขาไม่กลัวมันอีกต่อไปแล้ว เจ้าสิงโตถูกพวกเขาใช้ไม้ไล่ตีจนต้องกลับเข้าไปอยู่ในป่าตามเดิม
:: นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ::
ความรักมีพลังอันยิ่งใหญ่
แม้สัตว์ป่าที่ดุร้ายก็ยังต้องพ่ายแพ้ให้แก่ความรัก
:: พุทธภาษิต ::
นตฺถิ
กามา ปรํ ทุกฺขํ.
ทุกข์ ( อื่น) ยิ่งกว่ากาม ย่อมไม่มี.
ทุกข์ ( อื่น) ยิ่งกว่ากาม ย่อมไม่มี.
นิทานอีสป
เรื่อง พังพอนกับชาวบ้าน
ณ หมู่บ้านแห่งหนึ่ง ชาวบ้านชอบนำเนื้อพังพอนมาปรุงเป็นอาหารอย่างมาก เพราะมันมีรสชาติอร่อย โดยจะนำไก่ตายไปแขวนไว้เพื่อล่อให้พังพอนออกมา แต่พังพอนเป็นสัตว์ที่ฉลาด มันจึงหาอารหารกินได้ โดยที่ไม่ติดกับดักของชาวบ้านเลย ชาวบ้านจึงโกรธพังพอนมาก ถ้าพบเจอที่ไหนก็จะเข้าไปทำร้ายมันทันที วันหนึ่งมีชาวบ้านคนหนึ่งกำลังจ้องปืนเล็งไปที่พังพอนอยู่นั้น ปรากฏว่าปืนของเขาเกิดสะบัดยิงเข้ามาโดนหน้าอกเขาตายเสียเอง
:: นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ::
ให้ทุกข์แก่ท่าน
ทุกข์นั้นถึงตัว
:: พุทธภาษิต ::
ทุกขะโต
ทุกขะถานัง
ให้ทุกข์แก่ท่านทุกนั้นถึงตัว
ให้ทุกข์แก่ท่านทุกนั้นถึงตัว
แมวสาวตัวหนึ่ง ตกหลุกรักชายหนุ่มรูปงามคนหนึ่ง มันจึงไปขอร้องเทพวีนัสซึ่งเป็นเทพแห่งความรักและความงาม ช่วยเสกให้มันกลายร่างเป็นหญิงงาม เทพวีนัสเสกให้ตามคำขอ ชายหนุ่มเมื่อเห็นแมวสามก็ตกหลุมรักและขอเธอแต่งงาน เมื่อเทพวีนัสรู้เรื่องจึงอยากทดสอบว่า แมวสาวสามารถเปลี่ยนนิสัยตามสัญชาตญาณของมันได้หรือไม่ จึงลองปล่อยหนูเข้าไปในห้องนั้น เมื่อแมวสาวเห็นหนูก็ลืมตัว วิ่งไล่จับหนูกินทันที เทพวีนัสเห็นเช่นนั้นก็ผิดหวังมาก จึงเสกให้หญิงสาวกลายร่างเป็นแมวตามเดิม
:: นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ::
สิ่งมีชีวิตมักแสดงสัญชาตญาณเดิมของตนในยามคับขัน
:: พุทธภาษิต ::
เต
ทีฆรตฺตํ โสจนฺติ เย ปมชฺชนฺติ มาณวา
คนประมาท ย่อมเศร้าโศกสิ้นกาลนาน
คนประมาท ย่อมเศร้าโศกสิ้นกาลนาน
วันหนึ่งเกิดลมพายุใหญ่พัดกระหน่ำรุนแรงไปทั่วทั้งป่า
ต้นโอ๊กต้นหนึ่งไม่อาจต้านแรงลมไหว จึงโค่นลงมาแบบถอนรากถอนโคน แต่ต้นอ้อเล็กๆ ที่อยู่ข้างๆ กลับไม่เป็นอะไรเลย
ต้นโอ๊กแปลกใจมากจึงถามต้นอ้อว่า"พวกเจ้าเป็นเพียงแค่ต้นไม้เล็กๆ ที่บอบบางและอ่อนแอ แต่ทำไมเวลาโดนพายุ
พวกเจ้าถึงไม่เป็นอะไรเลย" ต้นอ้อจึงตอบว่า "ก็เพราะท่านทำตัวแข็งต้านกระแสลม
ท่านจึงโค่นล้มได้ง่าย
แต่พวกเราโอนอ่อนไปตามแรงลมจึงรอดพ้นจากพายุในครั้งนี้มาได้โดยไม่ได้รับอันตรายใดๆยังไงล่ะ"
:: นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ::
:: นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ::
ผู้อ่อนน้อมย่อมสามารถอยู่รอดได้ดีกว่าผู้ที่แข็งกร้าว
:: พุทธภาษิต ::
“ในที่ใด
ยังไม่รู้จักคนโดยกำเนิด
หรือโดยขนบประเพณี เมื่ออยู่ในที่นั้น
หมู่คนที่ยังไม่รู้จักกัน ไม่ควรทำความถือตัว”
หรือโดยขนบประเพณี เมื่ออยู่ในที่นั้น
หมู่คนที่ยังไม่รู้จักกัน ไม่ควรทำความถือตัว”
นิทานอีสป เรื่อง ดอกกุหลาบกับดอกบานไม่รู้โรย
ณ สวนแห่งหนึ่ง มีดอกบานไม่รู้โรยและดอกกุหลาบปลูกอยู่ติดๆ กัน ดอกบานไม่รู้โรยกล่าวชมดอกกุหลาบว่า "เจ้าเป็นดอกไม้ที่สวยงามมาก ข้าไม่แปลกใจเลยว่าทำไมมนุษย์ทั้งหลายถึงชอบเจ้า ข้าอิจฉาในความงามของเจ้าเหลือเกิน" ดอกกุหลาบได้ยินเช่นนั้นก็ตอบดอกบานไม่รู้โรยด้วยน้ำเสียงเศร้าสร้อยว่า "ความงามของฉันมันเพียงระยะเวลาสั้น ๆ เท่านั้น อีกไม่นานกลีบก็จะเหี่ยวเฉาและร่วงลงสู่ดินไปในที่สุด แต่เจ้าสิ ยังคงสีสันสดใสอยู่เสมอแม้จะถูกเด็ดไปก็ตาม"
:: นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ::
สิ่งที่เราเห็นว่าดีกว่า
อาจไม่ได้เป็นเช่นนั้นเสมอไป
:: พุทธภาษิต ::
อิจฉา
โลกสฺมิ ทุชฺชหา.
ความอยากละได้ยากในโลก.
ความอยากละได้ยากในโลก.
บทที่2
เอกสารเกี่ยวข้อง
การจัดทำโครงงานเพื่อการศึกษานิทานอีสปที่มีหลากหลายเรื่อง คณะผู้จัดทำได้ศึกษาค้นคว้าเสนอเอกสารที่เกี่ยวข้องดังต่อไปนี้
นิทานอีสป
อีสป เป็นชื่อของชายคนหนึ่งซึ่งเกิดในเมืองฟรีเยีย
ราว 620 - 560 ปีก่อนคริสตกาล
หรือก่อนสมัยพุทธกาลเพียงเล็กน้อย ในปัจจุบันดินแดนแห่งนี้มีชื่อเรียกว่า
เอเซียไมเนอร์ เป็นดินแดนที่ทวีปเอเชียและทวีปยุโรปมาชนกันจนกลายเป็นดินแดงที่มีความเจริญรุ่งเรืองมากในยุคสมัยของอีสป
แต่เนื่องจากดินแดนแห่งนี้เป็นแหล่งรวมของพ่อค้าวาณิช ทูต และนักท่องเที่ยว
เป็นดินแดนที่มีการค้าทาสกันอย่างแพร่หลายในสมัยนั้น อาจกล่าวได้ว่า อีสป
ก็เป็นทาสคนหนึ่ง มีสมญานามว่า Ethiop (เอธิออป)
หมายถึง คนผิวดำ เชื่อกันว่าที่มาของชื่อมาจากชื่อประเทศเอธิโอเปีย กลายมาเป็น
อะบิสซีเนีย ต่อมาชาวยุโรปได้ออกเสียงผิดเพี้ยนไปจนกลายเป็น Aesop (อีสป) ในบางตำนานได้มีการถกเถียงกันว่า ตำนานอีสป นั้นอาจจะมาจากเมืองเทรซ
ไพรเกียเอธิโอเปีย ซามอส เอเธนส์ หรือเมืองซาร์ดิส
ซึ่งยังไม่มีใครรู้ข้อมูลตรงนี้อย่างแน่ชัด
คามาริอุส
(Camarius) ผู้เขียนประวัติของอีสปได้พรรณนากายภาพของอีสปว่า
เขามีรูปร่างหน้าตาอัปลักษณ์จนผิดมนุษย์ ปากแบะ จมูกบี้ มีลิ้นคับปาก ผิวมืดดำ
เวลาเดินหลังจะงุ้ม อีสปมักพูดเสียงอยู่ในลำคอ ไม่ค่อยมีใครได้ยินเวลาที่อีสปกล่าว
หรือพูดจาปราศรัยกับใคร
แต่เดิม อีสป นั้นเป็นทาสอยู่ที่เมืองซามอส (Samos) ประเทศกรีซ นายอิดมอน หรือเอียดม็อน เจ้านายของอีสป
ได้ให้เขาทำหน้าที่เป็นครูสอนหนังสือให้กับลูกๆ ของอิดมอน และเนื่องจากว่าบ้านของอิดมอนเป็นที่พบปะสังสรรค์ในหมู่บุคคลสำคัญของกรีก
อีสปจึงได้มีโอกาสพบเห็นและทำความรู้จักกับบุคคลเหล่านั้น ว่ากันว่า อีสป
มีความสามารถพิเศษในการมองคนด้วยการสังเกตรู้ได้โดยวิจารณญาณว่าใครเป็นอย่างไร
และอิดมอนก็รู้ในความสามารถพิเศษนั้นของอีสป จึงได้ให้อีสปติดตามไปด้วยเสมอเมื่อต้องไปพบปะกับคนใหญ่คนโตของกรีก
เขาได้มีโอกาสเล่านิทานให้คนเหล่านั้นฟังจนทำให้กลายเป็นที่ชื่นชอบนับแต่นั้นมา
ต่อมา อิดมอนได้ให้อิสรภาพแก่อีสป
ซึ่งกว่าที่เรื่องราวของเขาจะได้การยอมรับจากประชาชนชาวกรีกนั้น
เขาต้องใช้เทคนิคเฉพาะตัวเพื่อทำให้ผู้ฟังเกิดความคล้อยตาม
เพราะเป็นที่แน่นอนอยู่แล้วว่าในนครรัฐกรีกต่างก็มีนักปราชญ์และนักคิดอยู่เป็นจำนวนมาก
ในขณะที่อีสปเองไม่ได้มีชื่อ หรือความน่าเชื่อถืออะไรติดตัวอยู่เลย
ทั้งยังเป็นเพียงทาสคนหนึ่งที่พิกลพิการ หวังให้ใครมาเชื่อถือก็ยากเอาการอยู่
สุดท้ายด้วยความพยายามของอีสป
เขาสามารถเอาชนะใจชาวกรีกด้วยการเล่าเรื่องที่สุดแสนจะธรรมดา แต่แฝงไปด้วยข้อคิด
ปรัชญา และคติสอนใจต่างๆ หลากหลาย ใครที่ได้ฟังจะเข้าใจได้ง่าย
สามารถนำคติสอนใจที่ได้รับกลับไปประยุกต์ใช้ในการดำเนินชีวิตประจำวันของตัวเองได้อีกด้วย
อีกทั้งลักษณะเด่นของเรื่องราวที่อีสปเล่า
เขามักจะตัวละครที่เป็นบรรดาสิงห์สาราสัตว์ทั่วไป อาทิ หมาป่ากับลูกแกะ
สุนัขกับเงา ราชสีห์กับหนู หรือสุนัขจิ้งจอกกับกา เป็นต้น
ชื่อเสียงของอีสปโด่งดังไปจนถึงหูของกษัตริย์เครซุส
ซึ่งเป็นกษัตริย์ที่มีความร่ำรวยมหาศาล อีสปได้เข้าพักอาศัยอยู่ในวังและได้รับคำสั่งให้เข้ามาปฏิบัติหน้าที่ในราชสำนักในตำแหน่งราชทูต
เขาต้องเดินทางไปเจรจาความกับเมืองต่างๆ
เนื่องจากกษัตริย์เครซุสเห็นว่าอีสปนั้นเป็นคนที่มีปฏิภาณไหวพริบและเป็นนักจิตวิทยาชั้นสูง
เขาได้พบกับรัฐบุรุษของเมืองเอเธนส์และนักปราชญ์ผู้รอบรู้ต่างๆ มากมาย
โดยเฉพาะนักปราชญ์ที่ชื่อ โซลอน โดยในบางตำนานได้เล่าว่า
อีสปเคยเข้าไปอยู่ในสำนักของโซลอน ซึ่งเป็นนักกฎหมายที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมาก
โซลอนเป็นญาติของปีซัสเตรตัส ผู้ปกครองแห่งเมืองเอเธนส์
ในขณะนั้นชาวเมืองคิดที่จะขับไล่ให้ปีซัสเตรตัสออกจากตำแหน่งเจ้าเมือง
เพราะเห็นว่าปีซัสเตรตัสนั้นปกครองประชาชนโดยใช้อำนาจเป็นใหญ่ กดขี่ข่มเหงสารพัด
อีสปจึงได้เล่านิทานเรื่อง กบเลือกนาย ให้กับประชาชนชาวเอเธนส์ฟัง
ทำให้ประชาชนชาวเมืองเลื่อมใสการปกครองของปีซัสเตรตัสได้สำเร็จ นอกจากนั้น
อีสปยังได้แสดงความคิดเห็นในทางการปกครอง และเล่านิทานเชิงเปรียบเทียบอีกหลายๆ
เรื่องในสำนักกฎหมายของโซลอน
บทที่ 3
วิธีการดำเนินโครงงาน
วัสดุและอุปกรณ์ (เว็บบล็อก)
-โปรแกรม Microsoft Word 2007
-เว็บไซต์ที่ให้บริการคือ http://www.blogger.com/
วิธีการดำเนินโครงงานและระยะเวลาในการดำเนินงาน
บทที่ 4
ผลการดำเนินงาน
ผลการดำเนินงาน
การจัดทำโครงงานคอมพิวเตอร์การพัฒนาเว็บบล็อก
(WebBlog) เรื่อง นิทานอีสป นี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาเว็บบล็อก (WebBlog) และค้นคว้าเรื่องที่สนใจเกี่ยวกับนิทานอีสป เพื่อให้ผู้จัดทำโครงงานสามารถนำมาประยุกต์ใช้ให้เข้ากับการเรียนรู้ของตนเองมากยิ่งขึ้น
ตลอดจนสามารถติดต่อสื่อสารกันได้ระหว่างครู เพื่อนและผู้สนใจทั่วไป ซึ่งมีผลการดำเนินงานโครงงาน ดังนี้
ผลการพัฒนาเว็บบล็อก
การพัฒนาเว็บบล็อก (WebBlog) ผู้จัดทำได้เริ่มดำเนินงานตามขั้นตอนการดำเนินงานที่เสนอในบทที่ 3 แล้ว ทั้งนี้เว็บบล็อกดังกล่าว สามารถจัดการและเชื่อมต่อกับเว็บไซต์อื่นๆ
ได้เป็นอย่างดี โดยทั้งครูที่ปรึกษา
เพื่อนๆในห้องเรียนได้เข้าไปมีส่วนร่วมในการจัดการเรียนรู้
โดยแสดงความเห็นในเนื้อหาและรูปแบบของการนำเสนออย่างหลากหลาย
ซึ่งทำให้เกิดการเรียนรู้และเป็นแหล่งเรียนรู้ในโลกออนไลน์อย่างหลากหลายและรวดเร็ว
บทที่ 5
สรุป อภิปรายและข้อเสนอแนะ
การจัดทำโครงงาน นี้สามารถสรุปผลการดำเนินโครงงาน และข้อเสนอแนะ
ดังนี้
วัตถุประสงค์ของโครงงาน
-เพื่อศึกษาและพัฒนาเว็บบล็อก
-เพื่อเป็นสื่อทางการศึกษาผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต
- เพื่อเป็นประโยชน์กับบุคคลที่สนใจทั่วไป
วัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมือหรือโปรแกรมหรือที่ใช้ในการพัฒนา
-โปรแกรม Microsoft Word
2010
สรุปผลการดำเนินงานโครงงาน
การพัฒนาเว็บบล็อก (WebBlog) ผู้จัดทำได้เริ่มดำเนินงานตามขั้นตอนการดำเนินงานที่เสนอในบทที่ 3 แล้ว สามารถจัดการและเชื่อมต่อกับเว็บไซต์อื่นๆ ได้เป็นอย่างดี
โดยทั้งครูที่ปรึกษา เพื่อนๆในห้องเรียนได้เข้าไปมีส่วนร่วมในการจัดการเรียนรู้
โดยแสดงความเห็นในเนื้อหาและรูปแบบของการนำเสนออย่างหลากหลาย
ซึ่งทำให้เกิดการเรียนรู้และเป็นแหล่งเรียนรู้ในโลกออนไลน์อย่างหลากหลายและรวดเร็ว
ข้อเสนอแนะ
- เว็บไซต์ที่ให้บริการเว็บบล็อก
คือ เป็นเว็บบล็อกสำเร็จรูปที่ใช้ทำเว็บไซต์ได้ง่าย และรวดเร็ว
แต่ถ้าเราใช้ประโยชน์ในทางที่ไม่ถูกต้องและไม่เหมาะสม ก็จะส่งผลต่อการละเมิดลิขสิทธิ์และได้รับความรู้ที่ไม่ถูกต้อง เพราะฉะนั้นผู้จัดทำควรเผยแพร่สิ่งที่ดี ๆ
ให้บุคคลที่เข้ามาเยี่ยมหรือศึกษาได้ความรู้และสิ่งดี ๆ
นำไปเผยแพร่ต่อให้ผู้อื่นมาศึกษาความรู้ที่เป็นประโยชน์ต่อไป
- ควรมีการจัดทำเนื้อหาของโครงงานให้หลากหลายให้ครบทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้
- ควรมีการจัดทำแบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียนเพิ่มเติม
ปัญหา อุปสรรค และแนวทางในการพัฒนา
- เครื่องคอมพิวเตอร์ไม่เพียงพอกับการทำโครงงาน
-บางครั้งสมาชิกไม่พร้อมมาร่วมกันทำโครงงาน
จึงทำให้เกิดการล่าช้า
-สมาชิกบางคนไม่มีความรู้ความสามารสด้านอิเล็กทรอนิกส์
บรรณานุกรม
นิทานอีสป นิทานอีสป พร้อมคติสอนใจ http://www.kalyanamitra.org/th/Aesop_list.php\
ภาคผนวก

ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น